ติดตั้ง และ Run Hello World ภาษา Go

Hello World ภาษา Go

ภาษา Go นั้นเป็น Open Source ที่นิยามว่า รันง่าย เชื่อถือได้ และ มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือมันเร็ว กว่าภาษาอื่นๆ ทั่วๆไป และตัวมันเองก็เบามาก เวลานำมาเขียนโปรแกรม

ภาษาโก (Golang) ทำให้นักพัฒนาสามารถคอมไพล์ (การแปลงชุดคำสั่งโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาให้กลายเป็นไฟล์ที่สั่งให้ทำงานได้) สามารถคอมไพล์โปรแกรมที่มีความซับซ้อนได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งนอกจากคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว กลไกการทำงานของ Go ยังสามารถใช้ประสิทธิภาพของโพรเซสเซอร์มัลติคอร์ในการทำงานแบบขนานกันไปได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีระบบจัดการหน่วยความจำที่แก้ปัญหา (garbage collection)

ภาษาโก (Golang) จะเป็นภาษาโปรแกรมที่ทำงานได้เร็ว ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า Go เป็นเหมือนการผสมผสานจุดเด่นของ C++, Python และภาษาอื่น ๆ เข้าด้วยกัน จึงเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก

Flow Diagram การเริ่มเขียนโปรแกรมภาษา Go

1. Install Go


เข้าไปที่เว็บไซต์ https://go.dev/dl/ และ Download Go โดยเลือกให้ตรงกับ OS ของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ในตัวอย่าง ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows)

เริ่มเขียนโปรแกรมภาษา Go


ดับเบิ้ลคลิก หรือคลิกขวาและกด “Install” Go ที่ดาวน์โหลดมา


คลิกปุ่ม “Next”

เลือก “I accept the terms in the License Agreement” และคลิกปุ่ม “Next”

เลือกพื้นที่ในการจัดเก็บ Go (แนะนำให้ใช้ Default ที่ให้มา) และคลิกปุ่ม “Next”


คลิกปุ่ม “Install” เพื่อติดตั้ง Go

คลิกปุ่ม “Finish” เสร็จสิ้นการติดตั้ง Go


ตรวจสอบว่าได้ติดตั้ง Go เสร็จเรียบร้อยหรือไม่ ?


ให้ทำการเปิด Command Prompt ด้วยคำสั่ง cmd ทีช่องค้นหา


และพิมพ์คำสั่ง “go version” แล้วกด Enter

สิ่งที่ตอบกลับมาคือ Version ของ Go ที่ได้ทำการติดตั้งลงไปในเครื่อง (ในตัวอย่างคือ go1.17.3) แสดงว่าการติดตั้ง Go สำเร็จแล้ว


2. Install VSCode และ Git


2.1 ติดตั้ง VSCode


โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://code.visualstudio.com/ และ Download โปรแกรม VS Code โดยเลือกให้ตรงกับ OS ของเครื่องคอมพิวเตอร์ (ในตัวอย่าง ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows)


ดับเบิ้ลคลิก หรือคลิกขวาและกด “Open” โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมา

เลือก “I accept the agreement” และคลิกปุ่ม “Next >”

เลือกพื้นที่ในการจัดเก็บโปรแกรม (แนะนำให้ใช้ Default ที่ให้มา) และคลิกปุ่ม “Next >”

คลิกปุ่ม “Next >”


เลือกส่วนเพิ่มงานให้เลือก Create a desktop icon และ Add to PATH (requires shell restart) จากนั้นให้คลิกปุ่ม “Next >”


คลิกปุ่ม “Install” เพื่อติดตั้งโปรแกรม


คลิกปุ่ม “Finish” เสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม VS Code


2.2 ติดตั้ง Git


ให้ติดตั้ง Git เพื่อใช้สำหรับโหลด Tools หรือ Extensions

เข้าไปที่เว็บไซต์ https://git-scm.com/ และ Download โปรแกรม Git โดยเลือกให้ตรงกับ OS ของเครื่องคอมพิวเตอร์


ดับเบิ้ลคลิก หรือคลิกขวาและกด “Open” โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมา


คลิกปุ่ม “Next >”


เลือกพื้นที่ในการจัดเก็บโปรแกรม (แนะนำให้ใช้ Default ที่ให้มา) และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือกตามรูปภาพและคลิกปุ่ม “Next >”

คลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Use Vim(the ubiquitous text editor) as Git’s default editor และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Let Git decide และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Git from the command line and also from 3rd-party software และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Use bundled OpenSSH และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Use the OpenSSL library และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Checkout Windows-style, commit Unix-style line endings และคลิกปุ่ม “Next >”

เลือก Use MinTTY (the default terminal of MSYS2)และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Default (fast-forward or merge) และคลิกปุ่ม “Next >”


เลือก Git Credential Manager Core และคลิกปุ่ม “Next >”

เลือก Enable file system caching และคลิกปุ่ม “Next >”


คลิกปุ่ม “Install” เพื่อติดตั้งโปรแกรม

คลิกปุ่ม “Finish” เสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม  Git


3. Configure VSCode


เปิดโปรแกรม VS Code ขึ้นมาและกดไอคอน Extensions


ค้นหา Extension โดยพิมพ์คำว่า “go” ให้เลือก Go ที่เป็นของ Google จากนั้นให้คลิกปุ่ม “Install”


เมื่อติดตั้ง Extension Go สำเร็จปุ่มจะเปลี่ยนจาก “Install” เป็น “Uninstall”


ถัดไปให้กด Ctrl + Shift + P เพื่อ Show All Command

จากนั้นพิมพ์คำว่า “Go: Install/Update Tools” แล้วกด Enter


ให้ทำการเลือก Tools ที่จะใช้งานในที่นี้จะให้เลือกทั้งหมด แล้วทำการกด “OK”


การ Install Tools จะต้องขึ้น “SUCCESS” ทั้งหมด (หากขึ้นคำว่า “FAILED” แสดงว่าคุณยังไม่ได้ยังลงโปรแกรม Git)


4. Write Code


มาเริ่มต้นเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Go กัน

  1. ไปที่ Explorer
  2. Open Folder
  3. New foder
  4. ตั้งชื่อ ในตัวอย่างชื่อ HelloWorld
  5. Select Folder



สร้างไฟล์ “main.go” โดยคลิกไปที่ไอคอน New File


ตั้งชื่อเป็น main.go


พิมพ์โค้ดลงใน “main.go” 

package main

import "fmt"

func main() {
	fmt.Println("Hello, Go")
}



File – > Save


หรือใช้ Auto Save (จะบันทึกไฟล์อัตโนมัติ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง)


ทดสอบการทำงาน ด้วย TERMINAL


คลิกไปที่แท็บ TERMINAL


ภาษา Go นั้นมาพร้อมกับเครื่องมือใช้งานแบบคำสั่ง (command) ที่ครบสมบูรณ์ เราสามารถสั่งรันคำสั่ง go บน terminal เช่น ใช้คำ “go run main.go” แล้วกด Enter ผลลัพธ์ที่จะได้คือ “Hello, Go” แสดงว่า.. โปรแกรมแรก Hello World ของคุณสำเร็จแล้ว

“go run” คือคำสั่ง คอมไพล์และรันไฟล์หนึ่งหรือสองไฟล์


และเมื่อ ใช้คำ “go build main.go” ผลลัพธ์ที่จะได้คือไฟล์ main.exe เพิ่มเข้ามา

“go build” คือคำสั่ง คอมไพล์ไฟล์ซอร์สโค้ดจำนวนมาก


วิธีการ Run ไฟล์ซอร์สโค้ด ที่คอมไพล์ ออกมาแล้ว ก็สามารถ Run ด้วยคำสั่ง ./main เป็นต้น


การเรียกใช้งานซอร์สโค้ดที่คอมไพล์แล้ว ในคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ให้เข้าใช้งานโหมด “Command Prompt” แล้วเรียกใช้งานเป็น main.exe


อธิบายโค้ด


การใส่ package main ตอนเริ่มต้น ก็เพราะว่าการใส่ package main ไปที่ไฟล์ไหนก็ตาม จะเป็นการบอกตัว Compiler ของภาษา Go ให้รู้ว่า ไฟล์นั้นจะเป็นไฟล์ที่ถูก Execute หรือ เป็นไฟล์ที่ถูก Run

คือ เวลาเราใช้คำสั่ง go run ไฟล์ไหนก็ตาม ไฟล์นั้นต้องประกาศ package main เอาไว้เพื่อ บอก Compiler ของภาษา Go ให้รู้ว่าเราจะ Execute ที่ไฟล์นี้

และเพื่อให้ Go รู้ว่าจะเริ่มทำงานจากจุดไหน จึงจำเป็นที่เราต้องสร้าง package ชื่อ main พร้อมทั้งประกาศฟังก์ชันชื่อ main เช่นกัน


// ประกาศ package ชื่อ main
package main

// ฟังก์ชัน main จะเป็นจุดเริ่มต้นการทำงานของเรา
func main() {

}


การโปรแกรมด้วย Go สามารถแยกส่วนโค้ดด้วย package ได้ import จึงเป็นคำสำคัญเพื่อใช้ในการนำเข้า package หรือเรียกว่า library อื่นมาใช้ในโค้ดเรา เช่น import “fmt” สำหรับการใช้คำสั่งให้แสดงข้อความออกที่หน้าจอ

แพ็คเกจ fmt ใช้สำหรับจัดรูปแบบ อินพุต/เอาต์พุต พร้อมฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกับ printf และ scanf ของภาษา C

(โดยศึกษาการเลือกใช้งานแพ็คเกจ ต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ Standard library : https://pkg.go.dev/std )

package main

// นำเข้า package fmt มาใช้งาน
import "fmt"

func main() {
  
}


ภายใต้ fmt มีฟังก์ชันชื่อ Println ให้เราสามารถพิมพ์ข้อความออกจอได้

package main

import "fmt"

func main() {
  // ภายใต้ fmt มีฟังก์ชันชื่อ Println ให้เราสามารถพิมพ์ข้อความออกจอได้
  fmt.Println("Hello, Go")
}


บทความนี้เป็นแค่การทดสอบการเขียน และคอมไพเลอร์ภาษา Go ในขั้นเบื้องต้นที่ การเขียนโปรแกรมของภาษา Go นั้นยังต้องคำนึงถึงที่อยู่ในการจัดเก็บตัวงานด้วย (GOROOT, GOPATH) และยังรวมถึงการเลือก OS ที่จะทำการ Build (GOOS) อีกด้วย

>> Workshop-1 พื้นฐานภาษา Go

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *