ติดตั้ง Go บน Linux
ภาษา Go นั้นเป็น Open Source ที่นิยามว่า รันง่าย เชื่อถือได้ และ มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ คือมันเร็ว กว่าภาษาอื่นๆ ทั่วๆไป และตัวมันเองก็เบามาก เวลานำมาเขียนโปรแกรม
ภาษาโก ทำให้นักพัฒนาสามารถคอมไพล์ (การแปลงชุดคำสั่งโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาให้กลายเป็นไฟล์ที่สั่งให้ทำงานได้) สามารถคอมไพล์โปรแกรมที่มีความซับซ้อนได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งนอกจากคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว กลไกการทำงานของ Go ยังสามารถใช้ประสิทธิภาพของโพรเซสเซอร์มัลติคอร์ในการทำงานแบบขนานกันไปได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีระบบจัดการหน่วยความจำที่แก้ปัญหา (garbage collection)
ภาษาโก จะเป็นภาษาโปรแกรมที่ทำงานได้เร็ว ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า Go เป็นเหมือนการผสมผสานจุดเด่นของ C++, Python และภาษาอื่น ๆ เข้าด้วยกัน จึงเป็นอีกภาษาหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมาก
ด้วยไลบรารีที่แข็งแกร่งและเป็นเอกเทศและการจัดการรันไทม์ที่ดีขึ้น Go สามารถลดข้อผิดพลาดในการรวบรวมและประหยัดเวลา ในฐานะผู้ใช้ลีนุกซ์ คุณอาจกำลังคิดถึงการพึ่งพา Go;
Go มีระบบของตัวเองซึ่งคุณสามารถจัดการการพึ่งพา Go ได้ ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีการติดตั้งและเริ่มต้นใช้งาน Go บนระบบ Linux
ติดตั้ง Visual Studio Code บน Ubuntu
ติดตั้ง Go บน Ubuntu
Ubuntu (อูบุนตู) เป็นลินุกซ์ดิสทริบิวชันที่พัฒนาต่อมาจากเดเบียน การพัฒนาสนับสนุนโดยบริษัท Canonical Ltd ชื่อของดิสทริบิวชันนั้นมาจากคำในภาษาแอฟริกาใต้ว่า Ubuntu ซึ่งมีความหมายในภาษาอังกฤษคือ “humanity towards others
ดาวน์โหลดได้ที่ https://go.dev/dl/ เลือก Linux
จากนั้นก็ทำการแตกไฟล์ที่เราเพิ่งจะดาวน์โหลดมา แล้วย้ายไฟล์ไปไว้ที่ /usr/local
ด้วยการคลิกขวา ไฟล์ที่ ดาวน์โหลดมา เลือก Extract Here
คลิกเข้าไปที่โฟลเดอร์ ที่ คลายซิปแล้ว
จะพบโฟลเดอร์ go ให้คลิกขวา พื้นทีว่าง ด้านล่างโฟลเดอร์ go แล้วเลือก Open In Terminal
ย้าย โฟลเดอร์ go ไปที่ /usr/local ด้วยคำสั่ง
sudo mv go /usr/local
โฟลเดอร์ go ถูก ย้ายไปที่ /usr/local
ตรวจสอบได้โดย ไปที่ Other Locations -> Computer
โฟลเดอร์ go ที่เพิ่มเข้ามา
หรือ เข้าไปในโฟลเดอร์ /usr/local/ โดยใช้ Terminal คำสั่ง
cd /usr/local/
และ List ดูรายการ
ls
และเข้าไปในโฟลเดอร์ go โดยใช้ คำสั่ง
cd go
แล้ว List ดูรายการ
ในโฟลเดอร์ bin
แต่เมื่อต้องการเรียกใช้ go ให้ใช้คำสั่งคือ ./go
./go
ต้องการดูเวอร์ชัน go ที่ติดตั้ง
./go version
การ Set Environment
จากขั้นตอนที่แล้ว ถ้าไม่ได้เข้าไปที่โฟลเดอร์ bin เราจะยังไม่สามารถเรียกใช้งาน go ได้ ถึงแม้จะลงไว้ที่เครื่องแล้วก็ตาม
ทดสอบด้วยคำสั่ง
go
ในการพัฒนาระบบด้วยภาษา Go นั้น. สามารถจัดการข้อมูลผ่าน environment ด้วยการเปิดไฟล์ .bashrc ด้วยคำสั่ง
sudo gedit .bashrc
ไฟล์ .bashrc จะถูกเปิดขึ้นมา
เราจำเป็นต้องส่งออก PATH คือตำแหน่งไบนารีภาษา go โดยในไฟล์ .bashrc บรรทัด 119 ให้เพิ่มโค้ด export PATH=$PATH:/usr/local/go/bin
export PATH=$PATH:/usr/local/go/bin
และ กำหนด GOPATH คือพื้นที่ทำงานของภาษา Go โดยในไฟล์ .bashrc บรรทัด 120 ให้เพิ่มโค้ด export GOPATH=/home/ชื่อผู้ใช้/go -> Save (ชื่อผู้ใช้ในตัวอย่างคือ gothailand)
export GOPATH=/home/ชื่อผู้ใช้/go
ปิด Terminal แล้ว เปิดใหม่ แล้วทดสอบด้วยคำสั่ง go อีกครั้ง ตอนนี้จะสามารถ เรียกใช้งาน go ได้แล้ว
โปรแกรมแรก helloworld
เข้าไปในโฟลเดอร์ $GOPATH คือ /home/gothailand/go
cd $GOPATH
สร้างโฟลเดอร์ใหม่ ชื่อ src (สำหรับสร้างโฟลเดอร์โปรเจคภายในโฟลเดอร์นี้)
mkdir src
เข้าไปในโฟลเดอร์ src แล้ว สร้างโฟลเดอร์โปรเจคใหม่ใหม่ ชื่อ helloworld
mkdir helloworld
เข้าไปในโฟลเดอร์ helloworld
เปิด Visual Studio Code ด้วยคำสั่ง
code .
Visual Studio Code จะถูกเปิดขึ้นมา
Configure VSCode
กดไอคอน Extensions ค้นหา Extension Go โดยพิมพ์คำว่า “go” ให้เลือก Go ที่เป็นของ Google จากนั้นให้คลิกปุ่ม “Install”
เมื่อติดตั้ง Extension Go สำเร็จปุ่มจะเปลี่ยนจาก “Install” เป็น “Uninstall”
ถัดไปให้กด Ctrl + Shift + P เพื่อ Show All Command
จากนั้นพิมพ์คำว่า “Go: Install/Update Tools” แล้วกด Enter
ให้ทำการเลือก Tools ที่จะใช้งานในที่นี้จะให้เลือกทั้งหมด แล้วทำการกด “OK”
Write Code
ไปที่ Explorer สร้างไฟล์ “main.go” โดยคลิกไปที่ไอคอน New File
เขียนโค้ดดังนี้
package main
import "fmt"
func main() {
fmt.Println("Hello, Go Linux")
}
ใช้ Auto Save (จะบันทึกไฟล์อัตโนมัติ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง)
ทดสอบการทำงาน ด้วย TERMINAL
คลิกไปที่แท็บ TERMINAL
ภาษา Go นั้นมาพร้อมกับเครื่องมือใช้งานแบบคำสั่ง (command) ที่ครบสมบูรณ์
เราสามารถสั่งรันคำสั่ง go บน terminal เช่น ใช้คำ “go run main.go”
go run main.go
แล้วกด Enter ผลลัพธ์ที่จะได้คือ “Hello, Go Linux” แสดงว่า.. โปรแกรมแรก Hello World ของคุณสำเร็จแล้ว