แนะนำภาษา C :

ภาษาซี เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์วัตถุประสงค์ทั่วไป ที่พัฒนาขึ้นในปี 1972 โดย Dennis Ritchie  และ Ken Thompson ที่ Bell Telephone Laboratories เพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการ UNIX โดย C เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย มันยังคงได้รับระดับความนิยมอันดับหนึ่งพร้อมกับ การเขียนโปรแกรมภาษา Java ซึ่งยังได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายในหมู่โปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์สมัยใหม่

Dennis Ritchie  และ Ken Thompson

วิวัฒนาการของ ภาษา C


– ค.ศ. 1970 มีการพัฒนาภาษา B โดย Ken Thompson ซึ่งทำงานบนเครื่อง DEC PDP-7 ซึ่ง ทำงานบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ไม่ได้ และยังมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่ (ภาษา B สืบทอดมาจาก ภาษา BCPL ซึ่งเขียนโดย Marth Richards)

– ค.ศ. 1972 Dennis M. Ritchie และ Ken Thompson ได้สร้างภาษา C เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ภาษา B ให้ดียิ่งขึ้น ในระยะแรกภาษา C ไม่เป็นที่นิยมแก่นักโปรแกรมเมอร์โดยทั่วไปนัก

– ค.ศ. 1978 Brian W. Kernighan และ Dennis M. Ritchie ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า The C Programming Language และหนังสือเล่มนี้ทำให้บุคคลทั่วไปรู้จักและนิยมใช้ภาษา C ในการเขียน โปรแกรมมากขึ้น

– แต่เดิมภาษา C ใช้ Run บนเครื่องคอมพิวเตอร์ 8 bit ภายใต้ระบบปฏิบัติการ CP/M ของ IBM PC ซึ่งในช่วงปี ค. ศ. 1981 เป็นช่วงของการพัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ ภาษา C จึงมี บทบาทสำคัญในการนำมาใช้บนเครื่อง PC ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และมีการพัฒนาต่อมาอีกหลาย ๆ ค่าย ดังนั้นเพื่อกำหนดทิศทางการใช้ภาษา C ให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน ANSI (American National Standard Institute) ได้กำหนดข้อตกลงที่เรียกว่า 3J11 เพื่อสร้างภาษา C มาตรฐานขึ้นมา เรียนว่า ANSI C

– ค.ศ. 1983 Bjarne Stroustrup แห่งห้องปฏิบัติการเบล (Bell Laboratories) ได้พัฒนาภาษา C++ ขึ้นรายละเอียดและความสามารถของ C++ มีส่วนขยายเพิ่มจาก C ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ แนวความคิดของการเขียนโปรแกรมแบบกำหนดวัตถุเป้าหมายหรือแบบ OOP (Object Oriented Programming) ซึ่งเป็นแนวการเขียนโปรแกรมที่เหมาะกับการพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่ที่มีความสลับซับซ้อนมาก มีข้อมูลที่ใช้ในโปรแกรมจำนวนมาก จึงนิยมใช้เทคนิคของการเขียนโปรแกรมแบบ OOP ในการพัฒนาโปรแกรมขนาดใหญ่ในปัจจุบันนี้

– ในเวลาต่อมา ภาษาซีได้รับความนิยมสูง สถาบัน ANSI (American National Standards Institute) ได้สร้างมาตรฐานภาษาซีขึ้นมา เพื่อรับรองให้เป็นสากล ภายใต้ชื่อว่า ANSI-C ตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาภาษาซีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นเวอร์ชันต่าง ๆ มากมาย มีการพัฒนา ต่อยอดเป็นภาษาซีพลัสพลัส (C++) หรือภาษาซีชาร์ป (C#) ซึ่งมีการเพิ่มชุดคำสั่งที่สนับสนุนการพัฒนาโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming) และยังคงรองรับชุดคำสั่งมาตรฐานของภาษาซี คือ ANSI-C อยู่ด้วย


ทำไมต้องเรียนรู้การเขียนโปรแกรม ภาษา C


ภาษาซีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเรียนและผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานเพื่อที่จะเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาทำงานในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ด้านล่างจะแสดงรายการข้อดีที่สำคัญของการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมภาษา C:

  • เรียนง่าย
  • ภาษาที่มีโครงสร้าง
  • มันผลิตโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ
  • สามารถรองรับกิจกรรมระดับต่ำ
  • สามารถคอมไพล์ได้บนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ที่หลากหลาย

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ภาษา C

  • C ถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเขียนระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า UNIX
  • C เป็นตัวตายตัวแทนของภาษา B ซึ่งเปิดตัวในช่วงต้นทศวรรษ 1970
  • ภาษานี้เป็นทางการในปี 1988 โดย American National Standard Institute (ANSI)
  • UNIX OS เขียนด้วยภาษา C ทั้งหมด
  • วันนี้ C เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมระบบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมมากที่สุด
  • ซอฟต์แวร์ล้ำสมัยส่วนใหญ่ได้รับการติดตั้งโดยใช้ภาษาซี

Hello World โดยใช้การเขียนโปรแกรม C



เพื่อให้คุณรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม C จะขอนำเสนอโปรแกรม C Programming Hello World แบบธรรมดาเล็กๆ น้อยๆ ให้คุณ

#include <stdio.h>

int main() {
   /* my first program in C */
   printf("Hello, World! \n");
   
   return 0;
}


การประยุกต์ใช้การเขียนโปรแกรม C


เริ่มแรกใช้ C สำหรับงานพัฒนาระบบ โดยเฉพาะโปรแกรมที่ประกอบขึ้นเป็นระบบปฏิบัติการ C ถูกนำมาใช้เป็นภาษาในการพัฒนาระบบ เนื่องจากมันสร้างโค้ดที่รันได้เร็วเกือบเท่ากับโค้ดที่เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลี ตัวอย่างการใช้ C ได้แก่ –

  • ระบบปฏิบัติการ (Operating Systems)
  • ภาษาคอมไพเลอร์ (Language Compilers)
  • แอสเซมเบลอร์ (Assemblers)
  • โปรแกรมแก้ไขข้อความ (Text Editors)
  • ตัวจัดคิวงานพิมพ์ (Print Spoolers)
  • ไดรเวอร์เครือข่าย (Network Drivers)
  • โปรแกรมสมัยใหม่ (Modern Programs)
  • ฐานข้อมูล (Databases)
  • ทำงานตามชุดคำสั่งที่เขียนไว้ทันที (Language Interpreters)
  • อรรถประโยชน์ (Utilities)

โปรแกรม C


โปรแกรม C สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 3 บรรทัดจนถึงหลายล้านบรรทัด และควรเขียนเป็นไฟล์ข้อความอย่างน้อยหนึ่งไฟล์ที่มีนามสกุล “.c” ; ตัวอย่างเช่น hello.c ในการเขียนโปรแกรมที่สะดวก ง่ายในการคอมไพล์และสร้างรหัสเป็นภาษาเครื่อง สามารถใช้ Editor และ Compiler ที่รวมกันไว้แล้ว ในชุดพัฒนาหรือเครื่องมือที่ช่วยในการพัฒนาโปรแกรม เรียกว่า IDE (Integrated Development Environment) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ที่เขียนโปรแกรมใช้ในการสร้างโปรแกรม โดยจะมี Editor สำหรับเขียนโค้ดของโปรแกรมและมีตัวแปลภาษามาพร้อม ปัจจุบันมีการออกชุดพัฒนามาหลายรุ่นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น Dev-C++ Visual Studio Code

ซึ่งชุดพัฒนาแต่ละตัวมีวิธีการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน เพราะพัฒนามาจากบริษัทต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามการเขียนโปรแกรมภาษาซีไม่ว่าจะเป็น IDE ใด ก็มีหลักและวิธีการที่คล้ายกัน จะต่างกันบ้างตรงรายละเอียดบางอย่าง ที่พัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

ผู้ชม


บทช่วยสอนนี้ออกแบบมาสำหรับโปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์ที่ต้องการเข้าใจภาษาการเขียนโปรแกรม C โดยเริ่มจากศูนย์ บทช่วยสอนภาษาซีนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจเพียงพอเกี่ยวกับภาษาการเขียนโปรแกรม C จากที่ซึ่งคุณสามารถพาตัวเองไปสู่ระดับความเชี่ยวชาญที่สูงขึ้นได้

ข้อกำหนดเบื้องต้น


ก่อนดำเนินการกับบทช่วยสอนนี้ คุณควรมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคำศัพท์ในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ความเข้าใจพื้นฐานของภาษาการเขียนโปรแกรมใดๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวคิดการเขียนโปรแกรม C และดำเนินการอย่างรวดเร็วในเส้นทางการเรียนรู้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *